"เมื่อคุณพูดเกี่ยวกับภูฏาน จะมีหลายคำถามตามมา เช่น “โอ้! นั่นไปยากมากเลยใช่ไหม?” “มันแพงสุดๆ เลย!” “มีการจำกัดจำนวนวีซ่าที่ออกให้นักท่องเที่ยว!” นั้นเนื่องจากมีคนจำนวนน้อยที่เคยไปภูฏาน จึงมีความสับสนและคำบอกเล่ามากมาย เราเข้าใจ มันฟังดูซับซ้อนและขั้นตอนทั้งหมดก็ชวนสับสน แต่นั่นไม่จริงเลย
เราจึงมาเพื่อแก้ไขความเชื่อและความเข้าใจผิดบางอย่างที่ผู้คนคิด และตอนจบของบทความนี้ เราจะขจัดความสับสนที่คุณอาจจะมี และคุณจะเข้าใจพร้อมกับวางแผนเที่ยวด้วย เพราะคุณเองก็สามารถไปสัมผัสประสบการณ์ความสุขที่ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้าได้
source
1. โควต้านักท่องเที่ยว
source
ความเชื่อนี้แท้จริงแล้วก็มีพื้นฐานมาจากข้อเท็จจริง รัฐบาลแห่งชาติภูฏานเคยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ให้เป็น 5,000 คนต่อปี จนถึงปี 1999 พวกเขาเชื่อ และคิดอย่างชอบธรรม ว่าการเข้าถึงโดยไม่จำกัดจะก่อให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ไม่เพียงต่อวัฒนธรรมที่พวกเขารักษามาอย่างดี แต่ต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่เขาพยายามอนุรักษ์ด้วย
ปัจจุบัน ไม่มีโควตาจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศภูฏานแล้ว เราขอย้ำอีกครั้ง (เนื่องจากเราถูกถามคำถามนี้บ่อยมากๆ) ไม่มีโควตาแล้ว! เอาไปบอกใครๆ ได้เลย! อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภูฏานมีเพียง 2 สายการบินให้บริการและมีเส้นทางบินน้อย จำนวนนักท่องเที่ยวจึงถูกจำกัดจากบริการของสายการบินที่มีเส้นทางบินเหล่านั้น
ดูตารางเที่ยวบินของ capacity คลิกที่นี่
2. ยากมากที่จะได้วีซ่าภูฏาน
Image Source
จากที่กระจ่างแล้วเรื่องไม่มีโควตาจำกัดนักท่องเที่ยว คุณก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นและไปได้ เนื่องจากมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตจากอินเดีย, บังกลาเทศ และมัลดีฟส์เท่านั้น ชาวต่างชาติอื่นๆ ต้องได้รับวีซ่าก่อนจะอนุญาตให้เข้าประเทศภูฏานได้
เนื่องด้วยนโยบายควบคุมอันเข้มงวด เกี่ยวกับ “การท่องเที่ยวมูลค่าสูง ผลกระทบต่ำ” ของภูฏาน วีซ่าจะออกให้ผ่านตัวแทนของคุณเท่าน้น โดยต้องเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูฏานที่ได้รับอนุญาต สำหรับคนที่จะจองทัวร์ (อย่าให้คำว่าทัวร์ทำให้คุณตกใจ มีทริปส่วนตัวสำหรับคุณและกลุ่มของคุณ คุณจะไม่ถูกจับรวมกับกลุ่มใหญ่อื่นๆ) และจัดการการเดินทาง โดยพื้นฐานแล้ว เมื่อคุณจองและชำระเงินสำหรับการเดินทางแล้ว จงปล่อยวางทุกอย่างให้ตัวแทนจัดการ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับวีซ่าด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่า คลิกที่นี่
3. การเดินทางไปภูฏานนั้นแพงมาก
source
มาพูดกันถึงเรื่องใหญ่ นั่นคือค่าธรรมเนียมรายวัน นักท่องเที่ยวทุกคนต้องจ่ายเงิน 250 USD สำหรับค่าธรรมเนียมต่อวันในระหว่างช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (มีนาคม – พฤษภาคม) และ 200 USD ต่อวัน ระหว่างช่วงไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 40/30 USD ต่อคน สำหรับนักเดินทางที่มาคนเดียว/เป็นคู่ ชวนเพื่อนๆ และเดินทางเป็นกลุ่ม 3 คนขึ้นไป เพื่อเริงร่าไปกับความประหยัด (เล็กน้อย)
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยตระหนัก คือเงินจำนวนนี่ครอบคลุมสิ่งต่างๆ จำนวนมาก เรามาลองแจกแจงกัน มันรวมสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้:
-
ทัวร์ที่มีไกด์ส่วนตัว
-
วีซ่าสำหรับภูฏาน
-
อาหาร 3 มื้อต่อวัน ตามภัตตาคาร/โรงแรม ที่กำหนด
-
ที่พัก 3 โรงแรม
-
ไกด์พูดภาษาอังกฤษที่มีใบอนุญาตและได้รับการรับรอง
-
คนขับรถมากประสบการณ์
-
ยานพาหนะในการท่องเที่ยว
-
ค่าเข้าสถานที่ & ค่าผ่านทาง
-
ค่าธรรมเนียมของรัฐ, ค่าภาคหลวง, ภาษี & ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ
-
น้ำแร่บรรจุขวดตลอดที่คุณอยู่ที่นี่
-
ชุดเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิม (คืนเมื่อสิ้นสุดการเดินทางที่นี่) **
-
การบริการ & ความช่วยเหลือเต็มรูปแบบ ทั้งก่อน, ระหว่าง และหลังการเดินทาง **
** เฉพาะลูกค้า Druk Asia เท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว คุณไม่ต้องนำเงินสดไปมากนักระหว่างเดินทาง เราแจ้งลูกค้าของเราให้เตรียมเงินประมาณ 200 USD สำหรับค่าทิป, ของฝาก, เครื่องดื่ม ฯลฯ ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ ?
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพคเกจของเรา คลิกที่นี่
4. การเดินทางในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวนั้นไม่แนะนำ
source
เราเคยพูดมาแล้วและจะพูดอีกครั้ง ภูฏานนั้นยอดเยี่ยมในทุกฤดูกาลของปี ถึงจะกล่าวอย่างนั้น แต่ก็มีช่วงท่องเที่ยวที่พีค (ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง) ซึ่งเป็นฤดูกาลแห่งงานเทศกาล และสภาพอากาศเหมาะแก่การเดินป่า
เดือนที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว คือฤดูร้อนและฤดูหนาว ก็มีข้อดีเช่นกัน ฤดูหนาวนั้นเป็นช่วงเวลาน่าอัศจรรย์สำหรับการถ่ายภาพ ด้วยท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งแจ่มใส และแสงสีที่น่าตื่นตา ยอดเขามีหิมะปกคลุมที่เห็นไกลๆ โอกาสที่จะได้เห็นนกกระสาคอดำที่ใกล้สูญพันธุ์ และถ้าคุณโชคดี (สุดๆ) ก็อาจมีโอกาสเจอหิมะตกด้วย
หากคุณไม่ใช่คนชอบความหนาวเหน็บ ลองพิจารณาการมาเที่ยวช่วงหน้าร้อน เพื่อมาชมพืชพันธุ์เขียวชอุ่ม และสายรุ้งที่ทอดผ่านทิวทัศน์ตระหง่าน ร่วมกับมีงานเทศกาลขนาดเล็กและอากาศกำลังสบาย ยกเว้นมีฝนตกบ้าง เนื่องจากหน้าร้อนมักเป็นฤดูมรสุมเช่นกัน แต่ก็มักมีฝนตกจำกัดเฉพาะช่วงเช้า ดังที่ Dolly Parton กล่าวไว้ “หากคุณต้องการเห็นสายรุ้ง มันก็ต้องมีฝน”
เหนือสิ่งอื่นใด คุณจะพบกับ 1) นักท่องเที่ยวที่น้อยลง 2) ประหยัด 50 USD สำหรับค่าธรรมเนียมรายวัน ระหว่างช่วงเดือนที่ไม่พีค!
อ่านช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนภูฏาน โดยอ้างอิงจากความสนใจและความชอบของคุณ คลิกที่นี่
5. ฉันจะไม่สามารถเดินทางคนเดียว ในแบบง่ายๆ เป็นอิสระได้
source
ลองจินตนาการการเดินทางลำพังสูงขึ้นไปในหุบเขาของ Shangri-La แห่งสุดท้ายอันลึกลับ กับทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ และธงบูชาที่ปลิวไปตลอดเส้นทาง... แค่ภาพอย่างเดียวก็ปลุกความรู้สึกอยากค้นหาเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตแล้ว ฉันหมายถึง ผู้คนก็มักไปที่นั่นเพื่อเสาะหาความสุขเสมอ
แต่หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวในภูฏาน เที่ยวลำพัง = คุณ + ไกด์ + คนขับรถ พวกเขาย่อมไม่รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของคุณ หรือถามคำถามสอดรู้สอดเห็น เพียงแต่จะอธิบายสถานที่ต่างๆ และวัฒนธรรมของภูฏานให้คุณทราบ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากการเดินทาง ทุกๆ คนก็ต้องการคนช่วยเหลือบ้างเป็นบางครั้ง...
ถึงอย่างนั้นก็มีข่าวดีนิดหน่อย สำหรับผู้ชอบความอิสระและเรียบง่าย การเดินทางของคุณนั้นกำหนดได้เองทั้งหมด คุณสามารถเลือกกิจกรรมแต่ละวันที่คุณอยากทำและอยากข้าม และเราก็ช่วยวางแผนการเที่ยวตามความสนใจเฉพาะของคุณได้ด้วย หากคุณต้องการอยู่ตามลำพังจริงๆ ใส่การฝึกสมาธิลงในแผนการเดินทางสิ
ไม่มีอะไรซับซ้อนอีกต่อไป ใช่ไหม?
source
ติดตามข่าวสารและ tips ต่างๆ ร่วมรับจดหมายข่าวของเรา ที่ drukasia.com