ดินแดนแห่งความสุข

คู่มือการเดินทางที่ภูฏาน

เราเดินทางไปภูฏานมากกว่า 10 ปี เพื่อไปผจญภัยในดินแดนเล็กๆ ในเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ ทำให้เรามีเส้นทางการเดินทางจากตัวเมืองปาโร (Paro) ไปสู่ ทราชิกัง (Trashigang) เมืองเงียบสงบที่มีประชากรเบาบาง

ประเทศภูฏาน เป็น สถานที่ที่ท่านจะได้พบกับวัฒนธรรมโบราณ ภูมิประเทศทิวทัศน์ที่สงบร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน และสถาปัตยกรรมที่งดงามมากมาย ภูฏานไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่สวยงาม แต่ยังมีสถานที่ลี้ลับศักดิ์สิทธิ์มากมายอีกด้วย

ชาวท้องถิ่นเรียกประเทศภูฏานว่า ดรุค ยูล (Druk Yul) แปลว่า ดินแดนของมังกรสายฟ้า (The land of thunder dragon) ภูฏาน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย อาณาจักรนี้เป็นแผ่นดินบนที่สูง ทอดยาวจากหุบเขาเขตร้อนที่เต็มไปด้วยป่าไม้ จนถึงเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม นอกจากนี้ดินแดนส่วนใหญ่ยังมีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วย ป่าไม้ ดอกไม้ นานาพรรณ รวมถึง สัตว์ประจำถิ่นต่างๆ จากทิวทัศน์ของภูมิประเทศของภูฏาน ทำให้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินป่าผ่านหุบเขาที่สูงตะหง่านหรือภูเขาสูงชัน เพื่อชมสถาปัตกรรมโบราณและวัดวาอาราม

ในด้านวัฒนธรรม ภูฏานเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่มากมาย เนื่องจากมีชาวพื้นเมืองที่นับถือศาสนาพุทธเกือบ 700,000 คน ทำให้ดินแดนที่เงียบสงบแห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานที่แทรกซึมในสังคม และ การใช้ชีวิตของชาวพื้นเมือง นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงวัฒนธรรมเหล่านี้ได้ในงานเทศกาลหรืองานประจำปีต่างๆ แม้เทคโนโลยีในปัจจุบันที่เริ่มมีการนำเข้ามาใช้ในประเทศภูฏานตั้งแต่กลางปี 1970 ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของชาวพื้นเมืองมากขึ้น แต่ชาวพื้นเมืองก็ยังคงดำเนินชีวิตและปฏิบัติตามจารีตประเพณีดั้งเดิมของตน ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ภูฏานจึงเป็นประเทศที่เหมาะสำหรับนักผจญภัย ที่มีความกระตือรือร้นในการท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือเพื่อแสวงบุญ และ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน ณ สถานที่ที่เงียบสงบ

Kuzuzangpola

การทักทายแบบชาวภูฏาน โดยปกติจะใช้การทักทายกันเมื่อเจอหน้า

การไปภูฏาน

สิ่งที่ท่านควรทราบ

สายการบินรอยัลภูฏานแอร์ไลน์ หรือ ดรุคแอร์ (Druk Air) มีเที่ยวบินมากกว่า 9 เมืองใน 6 ประเทศ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ ดรุคแอร์จะพาท่านไปพบกับสถานที่ที่เงียบสงบที่สุดในโลก ท่านจะได้รับประสบการณ์การบินที่ดีที่สุดจากดรุคแอร์ สายการบินที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ และใส่ใจลูกค้าทุกท่าน ตัวแทนสายการบินสามารถช่วยท่านจัดแจงตารางบินที่ดีที่สุด ในการเดินทางไปประเทศภูฏาน ซึ่งสนามบินปลายทาง คือ สนามบินเมืองปาโร (Paro)

เส้นทางการเดินทางที่ให้บริการจากกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ประเทศกาตมันดุ ประเทศเนปาลซึ่งมีเที่ยวบินทุกวัน เที่ยวบินอื่นๆ ได้แก่ สิงคโปร์ ธากา​ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย โกลกาตา บักโดกรา กายา และ อินเดีย

การท่องเที่ยวแบบ High Value - Low Volume

แม้ว่าปริมาณการท่องเที่ยวที่ล้นหลามอาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของภูฏาน แต่สำหรับชาวภูฏานนั้นสิ่งสำคัญของพวกเขาคือการปกป้องคุ้มครองวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของตนให้คงอยู่เหมือนดังแต่ก่อน รัฐบาลภูฏานเล็งเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และมีความเชื่อมั่นว่าการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศอย่างไม่จำกัด จะทำให้เกิดผลเสียต่อธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างโบราณต่างๆ จึงมีนโยบายจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศ จากนโยบายนี้ทำให้เกิดแนวคิดการท่องเที่ยวแบบ High Value - Low Volume ขึ้น เพื่อรักษาธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน เหมือนดั่งแนวคิดของชาวพื้นเมือง นักท่องเที่ยวจะได้ซึมซับและเข้าใจถึงรากแก่นของวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆของภูฏานอย่างแท้จริง และการรักษาธรรมชาติไว้จะทำให้นักท่องเที่ยวดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมที่สวยงามอย่างที่สุด

แต่ในปัจจุบันรัฐบาลได้มีการเพิ่มอัตราการท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสูงสุดอันดับที่ 2 ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของภูฏานรองจากเกษตรกรรม สภาการท่องเที่ยวแห่งภูฏาน (The Tourism Council of Bhutan) จึงได้ขยายพื้นที่การท่องเที่ยว รวมถึง แหล่งชุมชนที่ได้รับการคุ้มครองรวมถึงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ วัฒนธรรมโบราณ

ปฏิทินเทศกาล

ดูเทศกาลที่กำลังจะมาถึง ได้ที่นี่

วางแผนการท่องเที่ยวของคุณในช่วงเทศกาล

ความสุขมวลรวมประชาชาติ

ทำไมภูฏานถึงได้เป็นที่ได้รู้จักในนามของดินแดนแห่งความสุข?

ภูฏานได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่วัดผลความก้าวหน้าของประเทศจากความสุขของประชาชน แนวคิดนี้เกิดขึ้นจาก พระราชธิบดีลำดับที่ 4 แห่งราชอาณาจักรภูฏานได้กำหนดความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness (GNH)) เพื่อใช้แทนผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross National Product (GNP))

ความสุขของชาวภูฏานถูกให้ความสำคัญมากกว่าการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แม้ว่าทั้งสองสิ่งนี้ควรให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน คณะกรรมการความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH Commission) เป็นผู้กำหนดการวัดค่าความสุขของประชาชน ครอบคลุมดัชนีชี้วัดทั้ง 9 ด้าน ได้แก่ คุณภาพชีวิต การศึกษา สุขภาพ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม การสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การใช้เวลา การมีสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ที่ดี ความหลากหลายทางชีวภาพ และธรรมาภิบาล จากผลการรายงานระดับความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) ของคณะกรรมการความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH Commission) พบว่า 81.5% ของประชากรมีความสุขอย่างมาก และคณะกรรมการความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH Commission) จะยังคงพัฒนาประเทศต่อไปเพื่อให้ประชาชนมีความสุขถึง 100% ในภูฏาน

ความสุขมวลรวมประชาชาติ

เขต และ โซน

ภูฏาน มีทั้งหมด 4 โซน 20 เขต แต่ละเขตมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนไม่เหมือนใคร ซึ่งนำไปสู่ประสบการณ์ท่องเที่ยวไม่แปลกใหม่
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละเขตในภูฏาน

ภูฏานภาคกลาง
ภูฏานภาคตะวันออก

ระบบวีซ่าที่ภูฏาน

การเดินทางไปภูฏานจำเป็นต้องใช้วิซ่า ซึ่งท่านต้องได้รับการอนุมัติวิซ่าก่อนเดินทาง โดยบริษัทจัดทำแผนการเที่ยวจะได้รับสิทธิในการดำเนินการยื่นขอวิซ่า ที่พัก และ แพ็กเกจทัวร์ให้แก่ท่าน

ทำไมต้องขอวีซ่าไปภูฏาน

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอวีซ่าเข้าภูฏาน

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้ท่านต้องไปเที่ยวที่ภูฏาน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนเพื่อความผ่อนคลาย ซึ่งท่านจะได้รับการดูแลอย่างดีด้วยการนวดด้วยวิถีดั้งเดิมและการอาบน้ำแร่หิน (Hot Stone Bath) การท่องเที่ยวปีนเขาหรือชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของประเทศภูฏาน การเยี่ยมชมวัดวาอารามโบราณ การเดินทางเพื่อไปแสวงบุญ

Top 10 สถานที่ท่องเที่ยวในภูฏาน

  • 1. วัดรังเสือ (Tiger’s Nest) – หรือ วัดทักซัง ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ในภูฏาน จุดเด่นอยู่ที่ ที่ตั้งของวัดซึ่งอยู่ในเขตภูเขาเหนือเขตปาโร ต้องเดินขึ้นไปถึง 3,000 ฟีตจากตัวเมือง ด้วยความสูงระดับนี้ เมื่อท่านขึ้นไปถึงวัดท่านจะได้พบกับความสงบและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากตรงนี้ ในด้านประวัติศาสตร์ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง ท่านปรมาจารย์ กูรู รินโปเช (Guru Rinpoche) ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถจำแลงแปลงกายเป็นเสือได้ หลังจากจำศีล 3 ปี รินโปเช จะแปลงกายเป็นมนุษย์เพื่อมาสั่งสอนพระพุทธศาสนาแก่ชาวภูฏาน
  • 2. ป้อมปราการแห่งพูนาคา (Punakha Dzong) – ตั้งอยู่ที่เมืองทิมพู (Thimphu) เมืองหลวงของประเทศภูฏาน ระหว่างแม่น้ำโม (Mo Chhu) และ แม่น้ำโพ ป้อมปราการแห่งพูนาคาเป็นอีกหนึ่งป้อมปราการที่สวยงามที่สุด ถูกรายล้อมไปด้วยต้นศรีตรัง ป้อมปราการนี้เป็นป้อมที่ 2 ที่ถูกสร้างขึ้นในเขตเมืองหลวงทิมพู แม้ป้อมปราการจะถูกภัยธรรมชาติทำลาย เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือไฟไหม้ ก็จะถูกบูรณะซ่อมแซมใหม่ด้วยฝีมือสถาปัตยกรรมโบราณที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ป้อมปราการกลับมาสวยงามดังเดิมได้อยู่เสมอ
  • 3. เทศกาลเซชู (Tshechu) – เป็นเทศกาลทางศาสนาที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ กูรู รินโปเช ผู้คนชาวพื้นเมืองจะออกมารับพร เต้นรำระบำหน้ากาก และรับชมการแสดงอย่างเพลิดเพลิน ในตลอดหลายปีมานี้มีป้อมปราการและอารามหลายที่จัดเทศกาลเซชูเพื่อเฉลิมฉลอง หนึ่งในที่ยอดฮิตคือ เทศกาลเซชูที่ป้อมปราการภูนาคา (Punakha Tshechu) และ พูนาคาดรับเชน (Drubchen) ซึ่งจะมีการจัดแสดงที่แตกต่างจากสถานที่อื่น คือมีการแสดงเรื่อง the 1634 Battle of the Five Lamas.
  • 4. เส้นทางป่าบุมดรา (Bumdra Trek) – โปรแกรมการท่องเที่ยวนี้ได้รวมค่าอาหารเพิ่มเติม ผู้ช่วย และ ม้าสำหรับแบกสำพาระ โดยจะใช้เวลา 2-3 วันในการเดินป่า เริ่มจากวิทยาลัยพุทธศาสนาซังเชคอ (Sang Choekhor Buddhist College) ระหว่างการเดินทางท่านจะได้พบวิวทิวทัศน์ตระการตาของเทือกเขาในเขตต่างๆของภูฏาน ในคืนแรกจะพักกันที่ถ้ำนักบำเพ็ญพันปี (The Cave of a Thousand Prayers) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของวัดบุมดรา จากนั้นเราจะเที่ยวชมภายในวัดและเดินทางกลับลงมาจากภูเขา แวะวัดทักซัง ก่อนจะกลับไปที่เขตปาโร
  • 5. เส้นทางการเดินป่า ซอยยักเซ (Soi Yaksa Trek) – เป็นอีกหนึ่งเส้นทางการเดินป่าที่มีระดับความยากและเหนื่อยในระดับปานกลาง เพราะบางสถานที่จะสามารถเดินทางได้ง่าย แต่จะมีบางสถานที่ที่จะเดินทางลำบากกว่าปกติ จึงต้องใช้เวลาถึง 12 วัน ในการเดินทางเที่ยวชมวิวทิวทัศน์และบรรยากาศโดยรอบราชอาณาจักรภูฏาน ด้วยความสูงถึง 4,700 เมตรนี้ ท่านจะได้พบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร เช่น สำรวจชีวิตสัตว์ป่า ยอดวิวภูเขาสูง และ วัดโบราณอีกมากมาย
  • 6. เมืองบุมทัง (Bumthang Valley) – เขตปกครองบุมทัง เป็นภูมิภาคที่ใหญ่มากของภูฏาน ประกอบไปด้วย เมืองโชคอร์ (Choekhor) ทัง (Tang) ชูมี (Chhume) และ อูรา (Ura) ซึ่งเมืองโชคอร์ (Choekhor) คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลบุมทังแห่งนี้ ในเขตการปกครองจะเต็มไปด้วย สวนแอปเปิ้ล ฟาร์มนมวัว แปลงมันฝรั่ง นาข้าว และ ฟาร์มบัควีท

    นอกจากนี้เมืองบุมทังยังเป็นสถานที่แรกในภูฏานที่มีโรงงานการผลิตสวิสชีส (Swiss Chesse) ตัวโรงงานยังมีโรงเบียร์ที่ผลิตเบียร์ที่ดีที่สุดในภูฏาน ได้แก่ เรด แพนด้า (Red Panda) ท่านสามารถเที่ยวชมภายในโรงงานชีสและเบียร์ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในโปรแกรมท่องเที่ยว
  • 7. อูม่า พานาคา – อูม่า พานาคา เป็นรีสอร์ทสุดหรูสร้างโดย COMO Punakha ที่ให้บริการห้องพักเพียง 11 ห้องเท่านั้น ท่านจะได้สัมผัสกับวิวอันแสนสวยงามของเมืองพูนาคาผ่านรีสอร์ทสุดหรูนี้ ภายในรีสอร์ทประกอบไปด้วย ห้องอาหารสุดโรแมนติกที่บริการอาหารต่างชาติและอาหารพื้นเมืองภูฏาน สปาสุดหรูที่มาพร้อมกับการแช่บ่อหินร้อน
  • 8. นกกระเรียนคอดำ  – นกกระเรียนเป็นสัตว์ป่าที่ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ และจะอพยพมาในฤดูหนาวของทุกปีจากเมืองพบจิก้า (Phobjikha) ในทุกๆปี ชาวภูฏานจะมีงานเทศกาลเฉลิมฉลอง ถึง 9 วัน เพื่อต้อนรับการอพยพของนกกระเรียนคอดำ และเพื่อให้ชาวเมืองตระหนักถึงความสำคัญของนกกระเรียน ซึ่งเทศกาลนกกระเรียนคอดำนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปีตรงกับวันเกิดของพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักภูฏาน
  • 9. ผ้าทอพื้นเมืองสไตล์ภูฏาน – ผ้าทุกผืนจะถูกทอขึ้นด้วยมือและย้อมอย่างปราณีตโดยฝีมือสาวชาวภูฏาน ซึ่งทำให้เสื้อผ้ามีเอกลักษณ์ไม่ซำ้ใคร หากท่านใดสนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทอ ก็สามารถแวะไปได้ที่เมืองทิมพู (Thimphu)
  • 10. กอม โครา (Gom Kora)  – วัดกอม โครา (Gom Kora) หรือ วัดกอมพู โครา (Gomphu Kora) เป็นวัดที่มีการแกะสลักแบบชาวพุทธที่วิจิตรตระการตาสวยงามอย่างมาก และยังเป็นสถานที่ที่ กูรู รินโปเช มาเข้าฌาน ทำสมาธิบนก้อนหิน มีการกล่าวไว้ว่า ท่านรินโปเช กำลังเข้าฌานปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำ แต่ถูกปีสาจร้ายเข้ามาก่อกวน ทำให้ท่านต้องพักการเข้าฌาน ปราบปีสาจ เพื่อกลับมาปฏิบัติธรรมได้อีกครั้ง เมื่อท่านแปลงกายเป็นครุฑก็มีรอยปีกของท่านอยู่ใกล้ๆกับก้อนหินใหญ่นั้นด้วย กูรู รินโปเช สะกดปีสาจร้ายด้วยสองนิ้วลงบนก้อนหินใหญ่ ซึ่งท่านสามารถพบเห็นร่องรอยเหล่านั้นได้ภายในวัดกอม โครา แห่งนี้

กิจกรรมกลางแจ้ง

ท่านจะได้พบกับประสบการณ์การผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร

มีหลากหลายกิจกรรมให้ท่านเลือกทำในภูฏานอย่างไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าท่านจะต้องการการเดินป่าข้ามคืน ล่องแพในแม่น้ำ ตีกอล์ฟ ไกด์ของท่านจะช่วยให้ท่านได้ทำกิจกรรมที่ท่านต้องการอย่างเหมาะสมกับโปรแกรมการท่องเที่ยวของท่าน

  • ตีกอล์ฟ  – รอยัล ทิมพู กอล์ฟคลับ (The Royal Thimphu Golf Club) ตั้งอยู่ที่เมืองทิมพู เป็นแบบ 9 หลุม และเป็นที่ตีกอล์ฟที่เดียว ที่เปิดใช้แบบสาธารณะให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้ ท่านจะได้สัมผัสกับวิวสวยจาก ป้อม ทาชิ โช (Trashi Chhoe Dzong) ในพระราชวังพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน
  • ปั่นจักรยาน – ทริปการปั่นจักรยานส่วนใหญ่จะปั่นที่ถนนซึ่งไม่ใช่ถนนหลักสำหรับรถสันจร ดังนั้นจะไม่มีรถพลุกพล่าน ระหว่างปั่นจักรยานท่านจะได้พบกับประสบการณ์ท้าทาย เพราะทางบางส่วนจะค่อนข้างขรุขระในการผ่านเข้าไปที่เขตภูเขา นอกจากนี้ท่านจะได้ปั่นจักรยานจากตัวเมืองออกไปยังหมู่บ้านเล็กๆต่างๆ ที่จะทำให้ท่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมภูฏานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
  • ล่องแพในแม่น้ำ หรือ พายเรือคายัค  – โปรแกรมการล่องแพและพายเรือคายัคจะล่องไปถึง 6 แม่น้ำหลัก กระแสน้ำจะค่อนข้างแปรปรวน บางครั้งจะค่อนข้างแล่นเรือหรือล่องแพลำบาก แต่บางทีน้ำจะนิ่ง ล่องเรือง่าย ในระหว่างทริปนี้ท่านจะได้เห็นธรรมชาติและสัตว์ป่าน้อยใหญ่ วัดโบราณ และ สถานที่พิเศษที่ไม่สามารถพบเจอได้ที่ไหน

คำแนะนำสำหรับการแต่งกาย

  • 1. ชุดพื้นเมืองของชาวภูฏานเพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลพื้นเมืองต่างๆ สำหรับผู้ชายให้สวมใส่ Gho สำหรับผู้หญิงสวมใส่ Kira
  • 2. เมื่อเข้าไปเยือนสถานที่ในเมืองภูฏาน ให้นำธงมนตรา (prayer flag) ไปแขวนตามสถานที่สำคัญทางความเชื่อต่างๆเพื่อขอพรจากสิ่งศักสิทธิ์
  • 3. ถ้าหากท่านต้องการพักในรูปแบบโฮมสเตย์กับชาวพื้นเมือง ทาง ดรุค เอเชีย (Druk Asia) สามารถหาที่พักให้ท่านได้
  • 4. ให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารว่างสไตล์ภูฏาน เช่นเนยแข็งจากนมจามรี และ เจลลี่จากผิววัว หรือจะเป็น Uma berger เบอเกอร์ที่ทำเนื้อจามรีเพิ่มด้วยชีส Bumthang Gouda เป็นอาหารมื้อเย็นสุดพิเศษที่อยากให้ได้ลอง

เลือกที่พักสุดพิเศษสำหรับตัวท่านได้แล้ววันนี้

ข้อเสนอสุดพิเศษของโรงแรมและรีสอทสุดหรูสำหรับการพักผ่อนที่ประเทศภูฏาน พร้อมอ่างอาบน้ำหินร้อน(The Dotsho) แบบดั้งเดิม ที่ The Terma Linca Resort & Spa โดยเราขอนำเสนอห้องพักแบบไม้ ไซต์ใหญ่พิเศษ สำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่เล่นโยคะเป็นประจำ ที่ Uma Paro ยังมีบริการนวดและโยคะเพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจ ที่ Taj Tashi ยังมีบริการทรีทเมนท์เพื่อสุขภาพและความงามตามแบบฉบับอินเดีย ที่สปา Jiva Spa สุดท้ายนี้ Zhiwa Ling ยังมีคลาสสอนการชำระล้างจิตใจให้สงบ ด้วยวิวทัวทัศน์จาก วัดรังเสือ ประเทศภูฏาน

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภูฏาน

ข้อเท็จจริงที่ท่านต้องรู้ก่อนไปภูฏาน

สัตว์ป่าและเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า

70% ของพื้นที่ภูฏานถูกจัดอยู่ในเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า

เนื่องจากความหลากหลายทางชีวภาพ ต้นไม้ ดอกไม้ นานาพรรณ และ อุณหภูมิที่หลากหลายที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตต่างๆ

แม้ว่าจะมีสัตว์หายากอยู่ในอุทยานแห่งชาติ แต่การปันเขาผ่านเขตภูเขาทั้งหลายจะทำให้ท่านได้พบเจอกับสัตว์ป่าที่หลากหลายสายพันธุ์ อาธิเช่น แกะ Bluee Sheep เป็นพันธุ์แกะที่ผสมระหว่างแพะและแกะ ทำให้มันมีสีฟ้าจางๆในช่วงฤดูหนาว และสามารถพบเห็นได้ที่ความสูง 1800 - 4300 เมตร นอกจากนี้ยังมีจามรี หมาป่า กวางมัค กระรอกมาร์มอต และทาคิน ก็ชอบอาศัยอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง

ภูฏานเป็นบ้านให้แก่ ค่าง 3 สายพันธุ์ และ นกกว่า 600 สายพันธุ์ ค่าง (Langur) เป็นลิงที่มีสีเทา หรือ มีขนสีน้ำตาลทอง และหน้าสีดำ ส่วนนกจะอพยพย้ายถิ่นมาที่ภูฏานในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละปี นกเรวินเป็นนกประจำชาติ เพราะเชื่อว่าเป็นตัวแทนแห่งเทพเจ้า GONPO JARODONGCHEN นกกระเรียนคอดำก็เป็นหนึ่งในนกที่ได้รับการคุ้มครองสัตว์ป่าอีกเช่นกัน

และมากกว่า 50% ของประเทศเป็นเขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าเพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติ และ เขตคุ้มครองสัตว์ป่า อีกมากมาย

สถาปัตยกรรมภูฏาน

ประเทศภูฏานมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามตัวอย่างเช่น ป้อมปราการ พระอาราม และ วัด ซึ่งป้อม Dzongs เริ่มต้นใช้ในศตวรรษที่ 17 เป็นเสมือนป้อมปราการ แต่ในปัจจุบันอาคารแห่งนี้ถูกใช้เป็นสำนักงานบริหารสำหรับ 20 เขตของภูฏาน ในอดีต Dzongs สร้างจากหิน โคลนและไม้สำหรับมุงหลังคา แม้จะก่อให้เกิดไฟไหม้หลายครั้งตอนที่สร้างอาคารแห่งนี้ แต่วิธีการสร้างก็เป็นไปอย่างดั้งเดิมยกเว้นแต่ใช้หลังคาเหล็กมาแทนไม้

Goembas เป็นวัดที่มีความสำคัญทางศาสนา โดยแต่ละวัดจะมีชุมชนรายล้อมอยู่รอบบริเวณนี้ ในวัดเช่นนี้จะมี Khemar อยู่ข้างใต้หลังคา ซึ่งในความเป็นจริงหลายๆวัดในประเทศภูฏาณจะมี khemar เป็นลักษณะ แถบยาวสีแดง และจะมีแผ่นทองเหลืองถูกวางไว้บน khemar เพื่อเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ ในวัดแห่งนี้มักจะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พรรณนาถึงวงล้อแห่งชีวิต หกสัญลักษณ์แห่งอายุขัยและผู้พิทักษ์เส้นทางทั้งสี่ นอกจากนี้ทางเข้าวัดมักจะพบ บทกวีรูปทรงเรขาคณิตขนาดเล็กปักบนผ้า ซึ่งอุทิศให้กับ Zhabdrung

Lhakhang มีหลังคาสีเหลืองที่มีรูปทรงระฆังประดับด้วยทองคำอยู่ด้านบน มีภาพจิตรกรรมภาพวาดกับผู้ปกครองของสี่ทิศทางหรือล้อแห่งชีวิต คล้ายคลึงกับทางเข้าของทาง Goembas ผู้คนเดินที่เดินภายนอกอาคารจะเดินในทิศตามเข็มนาฬิกาและหมุนวงล้อเพื่อขอพรจากสิ่งศักสิทธิ์ตามความเชื่อ ก่อนเดินเข้าสู่โถงด้านใน ที่กำแพงในวิหารแห่งนี้ จะประดับไปด้วยภาพวาดที่น่าสนใจทางพุทธศาสนาและแท่นบูชาซึ่งตั้งอยู่ที่ส่วนท้ายของห้องโถง และจะมีรูปปั้นรูปพระพุทธศาสนาโบราณชื่อ กูรู รินโปเช (Guru Rinpoche) หรือ Jampa ซึ่งเคยปกครองพื้นที่ดังกล่าวในสมัยโบราณ

ประวัติความเป็นมา

ภูฏานถูกค้นพบเมื่อปีก่อน คริสต์ศักราช 2000 และเป็นที่เรียกขานในหลายนาม เช่น ลอลง (Lho Jong) ลอ มอน กา ชิ (Lho Mon Kha Shi) ลอ จง เมน จง ( Lho Jong Men Jong) และอื่นๆ ในช่วงศตวรรษที่ 17 จึงมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ดรุค ยูล (Druk Yul) ดินแดนนแห่งดรุคพา ดรุคพา อ้างอิงมาจากศาสนาในภูฏานที่ผู้คนนับถือปฏิบัติ จนตอนนี้เป็นศาสนาที่สำคัญของชาติ ก่อนศตวรรษที่ 7 Bonism เป็นศาสนาที่นับถือในภูฏาน จนกระทั่ง กษัตริย์ธิเบต Songtsen Gampo และ กูรู รินโปเชได้เผยแพร่หลักคำสอนพุทธศาสนา

Ngawang Namyel หรือ Zhabdrung ท่านแรก ท่านมาเข้ามามีอำนาจเมื่อปีก่อนคริสศักราช 1616 อีกทั้งยังเป็นผู้ที่รบชนะกองทัพทิเบตและรวมชาวภูฏานให้เป็นปึกแผ่น ท่านเริ่มสร้างระบบการปกครองที่ยังคงถือปฏิบัติมาจนกระทั่งสวรรคต ระบบเริ่มแย่ลงและการต่อสู้แบบกองโจรเริ่มมีมากขึ้น ระบบใหม่ของรัฐบาลเริ่มต้นด้วยการจัดตั้งระบอบกษัตริย์ คนแรก นามว่า Druk Gyalpo หรือกษัตริย์แห่งมังกร ตั้งกฎหมายสำหรับพลเมืองภูฏาน เพื่อให้มีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ในปี 1971 ภูฏานได้เข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ

วิถีชีวิตของชาวภูฏาน

ท่านเคยได้ยินสิ่งที่คนท้องถิ่นพูดไว้หรือไม่?

ประเทศหิมาลัยนี้ได้รักษาวัฒนธรรมและประเพณีมานับพัน ๆ ปี ภูฏานยังคงพยายามที่จะรักษาวัฒนธรรมของตน แม้จะผ่านการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และอิทธิพลทางเทคโนโลยี ภูฏานปฏิบัติตนตามหลักพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่ถูกนำเข้ามาในศตวรรษที่ 7 ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในประเทศเป็นพุทธศาสนา แต่ชาวเมืองในภาคใต้นับถือศาสนาฮินดู ชาวภูฏานรักษาประเพณีทางศาสนาของตนให้คงอยู่ ด้วยการจัดเทศกาลและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เฉลิมฉลองและเผยแพร่ประวัติศาสตร์ของพวกเขา

ชาวภูฏานกว่า 60% เป็นชาวนา เพาะพันธุ์ปศุสัตว์ และ เก็บเกี่ยวพืชผล คนชนบทเหล่านี้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง พวกเขาทำเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและเครื่องนอนของตัวเอง มีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่อาศัยและทำงานในพื้นที่เขตเมือง ส่วนใหญ่ทำงานในอุตสาหกรรมบริการ ซึ่งสามารถเป็นไกด์นำเที่ยว ครู สมาชิกกองทัพหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้หญิงสามารถทำงานในอุตสาหกรรมเหล่านี้นอกเหนือจากการทอผ้าเพื่อหารายได้ของครัวเรือนเพิ่มเติม

เมื่อคุณมาพักผ่อนที่ภูฏานคุณจะได้รู้ว่าชาวภูฏานเป็นคนใจดี ใจกว้าง พวกเขาจะทำให้คุณประทับใจกับการแสดงผลในความเป็นมิตร และ พบกับบประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมหลังจากไปเยือนอาณาจักรแห่งนี้

หากท่านมีข้อสงสัยสามารถสอบถามทางเราได้

ซึ่งทางเราได้เตรียมผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทางและท่องเที่ยวประเทศภูฏานไว้ให้คำปรึกษากับท่านแล้ว ทางลูกค้าจะได้รับการการบริการอย่างอบอุ่น Learn more on Testimonials from our Happy Travellers

คำแนะนำเพิ่มเติม: หากท่านต้องการไปเที่ยวช่วงฤดูท่องเที่ยว โปรดกรุณาวางแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้า 3 เดือน หรือท่านสามารถติดต่อและให้ทางเราช่วยติดต่อจองที่พักโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ